ผ้าม่านกันยูวี สุดฮิตในประเทศไทย

ผ้าม่านกันยูวี ป้องกันความร้อน แสงแดด และรังสี UV ยอดนิยมในประเทศไทย

ผ้าม่าน Dim-out และ ผ้าม่าน Black-out ต่างกันอย่างไร? ซื้อผ้าม่านชนิดไหนดี? รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

การเลือกผ้าม่านสำหรับติดในบ้านอยู่ที่สององค์ประกอบหลัก ซึ่งก็คือความสวยงามและฟังก์ชั่น (วัตถุประสงค์) การเลือกระหว่างผ้าม่านกันแสงชนิดที่ผ่านกระบวนการผลิตโดยการใช้เส้นด้ายสีดำในการถักทอ และผ้าม่านกันแสงแบบระบบเคลือบ ควรมองที่ทั้งสององค์ประกอบนี้ หลักๆคือ ผ้าม่านกันแสงที่ใช้เส้นด้ายสีดำจะมีความพลิ้วไหว ทิ้งตัวดี และดูไม่ต่างจากผ้าม่านธรรมดาทั่วไปในเรื่องของรูปทรงและความยืดหยุ่นของเนื้อผ้า ผ้าม่าน Dim Out จะมีแบบป้องกันแสงแดด 80% ไปถึง 100% ส่วนผ้าม่านกันแสงแบบเคลือบจะค่อนข้างแข็งและกระด้าง แต่จะป้องกันแสงแดดได้ 100% เต็ม ให้ห้องมืดสนิทอย่างแน่นอน

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

ผ้าม่าน Dim-Out คืออะไร?
ผ้าม่าน Dim-Out คือผ้าม่านป้องกันUVที่เย็บแบบสอดเส้นด้ายสีดำในเนื้อผ้า ผ้าม่านจะป้องกันแสงแดดได้ 80 – 100% ความหนา น้ำหนัก และจำนวนเส้นด้ายสีดำจะมีส่วนในเรื่องของประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดอย่างมาก ผ้าม่าน Dim-Out จะมีความสวยงามและมีลวดลายหลากหลายเหมือนผ้าม่านทั่วไป ผ้าม่านชนิดนี้จะมีความพลิ้วไหวและความนุ่มนวลต่อสัมผัสเหมือนผ้าม่านธรรมดา เพราะองค์ประกอบของผ้าม่าน Dim-Out ทำจากเส้นด้าย 100% เป็นผลิตภันฑ์สิ่งทอล้วนๆ และจะไม่มีส่วนประกอบอื่นๆ อย่างเช่นยางซิลิโคนหรือโฟม Acrylic ใดๆ สำหรับผ้าม่าน Dim-Out ทั่วไป ผ้าม่านสีเข้มจะป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าผ้าม่านสีอ่อน แต่ผ้าม่านรุ่น Dim Out 100% จะสามารถป้องกันแสงแดดได้ 100% เต็ม ไม่ว่าจะใช้สีเข้มหรือสีอ่อน

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

ทำไมถึงผ้าม่าน Dim Out (หรือผ้าม่านกันUV) เป็นที่นิยมในประเทศไทย?
ผ้าม่าน Dim-Out (ในตลาดพาหุรัดจะเรียกว่า “ผ้าม่านกันUV“) เป็นที่นิยมจำหน่ายในท้องตลาดเพราะเป็นผ้าม่านที่สามารถป้องกันทั้งรังสี Ultraviolet แสงแดด และความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้มากกว่าผ้าม่านปกติ เมืองไทยเป็นประเทศในแถบทรอปิคอล มีฤดูร้อนนานกว่าประเทศอื่น แม้จะเข้าฤดูอื่นก็มีอากาศร้อน เรียกได้ว่าเป็นเมือง “Summer Year Round” หรือมีฤดูร้อนตลอดปี ผ้าม่านกันUVจึงเป็นที่นิยมใช้กันอย่างมาก ผ้าม่าน Dim-Out จะมีแบบผ้าหน้าเดียวและแบบผ้าสองหน้า (ผ้าม่านสองหน้าจะมีเนื้อผ้าที่สวยงามทั้งด้านหน้าและด้านหลัง) ผ้าม่านชนิดนี้จะใช้เส้นด้ายสีดำ High Density Black Yarn ในกระบวนการผลิต ทำให้เนื้อผ้าทิ้งตัวดี ดูพลิ้ว และหลังจากเย็บเป็นผ้าม่านสำเร็จรูปแล้ว จะมีรูปร่างหน้าตาที่ไม่แตกต่างจากผ้าม่านปกติทั่วไป เพราะเส้นด้ายสีดำอยู่ข้างในเนื้อผ้า ผ้าม่าน Dim Out จะมีความพลิ้วไหวเท่ากับผ้าม่านธรรมดา คุณสมบัติอื่นๆอย่างเช่น ความนุ่มต่อสัมผัส ความยืดหยุ่น และรูปร่างหน้าตาก็ไม่ต่างจากผ้าม่านปกติ

ผ้าม่าน Dim Out ป้องกันแสงแดดได้ดีเท่าไหร่? ผ้าม่านแบบ Dim Out จะมีหลายเกรด หลายราคา อย่างที่เรียนข้างต้น ผ้าม่านที่ถักทอด้วยเส้นด้ายสีดำ High Density Black Yarn จะเรียกว่าผ้าม่าน Dim Out ได้ทั้งหมด ความแตกต่างอยู่ที่ความหนาและน้ำหนัก ผ้าม่าน Dim Out ที่มีความหนาและน้ำหนักมากจะมีเส้นด้ายดำมากกว่าผ้าม่านเนื้อบางและเบา เพราะฉะนั้นต้นทุนและราคาจะสูงกว่าเช่นกัน ผ้าม่านที่ถักทออย่างหนาแน่นจะป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าผ้าม่านเนื้อบางและทอหลวม ผ้าม่าน Dim Out ที่ทออย่างหนาแน่นและละเอียดจะสามารถป้องกันแสงแดดได้ถึง 100% และราคาจะสูงกว่าผ้าม่าน Dim Out ที่ป้องกันแสงแดดได้ไม่ถึง 100%

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

ผ้าม่าน Dim Out ดีกว่าผ้าม่านธรรมดาอย่างไร? ผ้าม่านธรรมดาทั่วไปจะไม่ใช้เส้นด้ายสีดำ High Density Black Yarn ในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถป้องกันแสงแดด รังสี UV และความร้อนได้น้อยกว่าผ้าม่าน Dim Out แม้เป็นผ้าม่าน Dim Out เนื้อบางก็จะสามารถป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าผ้าม่านปกติที่ไม่ได้ถักทอด้วนเส้นด้ายสีดำ

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

ผ้าม่าน Blackout คืออะไร ต่างจากผ้าม่าน Blockout และ ผ้าม่าน Dim Out อย่างไร?
ผ้าม่าน Blackout คือชื่อที่ทางตลาดให้กับทั้งผ้าม่านกันUVและผ้าม่านกันแสง 100% บางทีเราอาจฟังแล้วไม่เข้าใจว่าพูดถึงผ้าม่านกันUVหรือผ้าม่านกันแสง 100% กันแน่ ตามภาษาสากล ผ้าม่านกันแสง 100% จะเรียกว่า ผ้าม่าน “Blockout” เพราะมาจากคำว่า “Block Out Sun Light” หรือเราอาจเจอคำว่า “Blackout 100%” ก็เป็นได้ เพราะผ้าม่าน Blackout ไม่ได้หมายถึงป้องกันแสงแดด 100% เสมอไป ทางบริษัทขายผ้าม่านในต่างประเทศจะระบุจำนวนเปอร์เซ็นด้านหลังคำว่า Blackout ให้เข้าใจว่าเป็นผ้าม่าน Blackout ชนิดป้องกันแสงแดด 100% ซึ่งก็คือผ้าม่านที่ทำให้ห้องมืดสนิทแน่นอน

ผ้าม่าน Blackout 100% จะมีแบบผ้าม่านเสริมผ้าฉาบปรอท ผ้าม่านเคลือบซิลิโคน ผ้าม่านเคลือบโฟม และผ้าม่านทอด้วยเส้นด้ายสีดำ สำหรับผ้าม่านกันแสงแบบระบบเคลือบนี้ ตัวเคลือบที่นิยมใช้จะเป็นแบบซิลิโคนและแบบโฟม และจะมีลักษณะค่อนข้างแข็งและกระด้าง ทำให้เนื้อผ้าม่านไม่ยืดหยุ่นหรือมีความพลิ้วดีเท่าผ้าม่านกันแสงแบบ Dim Out แต่ถ้าพูดถึงประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด จะป้องกันได้ถึง 100% เต็มอย่างแน่นอน ในประเทศบ้านเรา การแยกแยะระหว่างผ้าม่าน Blackout ผ้าม่านกันUV และ ผ้าม่าน Blockout จะไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้น ถ้าให้แน่นอน คือให้ถามว่าเป็นผ้าม่านที่มีเคลือบด้านหลังหรือไม่มีเคลือบ

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

วิธีรู้ระหว่างผ้าม่านกันแสง 100% แบบเคลือบ และผ้าม่านกันแสง 100% แบบทอเส้นด้ายดำ
ถ้าเราอยากรู้ว่าผ้าม่าน Blackout ที่ร้านผ้าม่านพูดถึงคือผ้าม่านชนิดไหน ให้ถามว่าเป็นผ้าม่านมีเคลือบด้านหลังหรือใช้เส้นด้ายดำทอในเนื้อผ้า ถ้าเป็นแบบแรก ผ้าม่านจะป้องกันแสงแดดแบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มอย่างแน่นอน  ถ้าเป็นอย่างที่สอง ผ้าม่านจะมีแบบป้องกันแสงแดดได้ 80 – 100% ถ้าได้จับผ้าดูเอง เราสามารถดูด้านหลังของผ้าได้ และจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นผ้าม่านกันแสงระบบเคลือบหรือระบบเส้นด้ายดำ ถ้าเป็นเคลือบ เนื้อผ้าจะแข็งและมีความกระด้าง ถ้าเป็นผ้าหนานุ่ม แสดงกว่าเป็นผ้าม่านที่ทอด้วยเส้นด้ายสีดำข้างใน

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

ตลาดผ้าม่านเมืองไทยนิยมใช้แบบไหน? จากประสบการณ์ ตลาดผ้าม่านพาหุรัดจะนิยมผ้าม่านกันแสงUVแบบสอดเส้นด้ายสีดำ เพราะทำจากผ้าและเส้นด้ายล้วนๆ 100% ผ้าม่านจะมีความพลิ้วไหว ไม่กระด้าง และมีอายุการใช้งานยาวนานเพราะไม่ใช้เคลือบที่สามารถหลุดลอกออกได้ ผ้าม่านกันแสงแบบเคลือบก็เป็นที่นิยมเช่นกัน และมีจำนวนคนไม่น้อยที่ต้องการผ้าม่านแบบนี้ สำหรับผู้ที่เลือกซื้อผ้าม่านกันแสงแบบสอดเส้นด้ายดำ เราสามารถกำหนดได้ว่าอยากให้ผ้าม่านป้องกันแสงแดดมากน้อยแค่ไหน ข้อดีของผ้าม่าน Dim Out คือ เป็นชนิดผ้าม่านที่กรองรังสี UV ออกได้อย่างดีเยี่ยม โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำให้ห้องมืดสนิทเวลาอยู่ในบ้าน รังสี UV เป็นตัวที่ทำลายเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของเครื่องประดับในบ้าน ทำให้สภาพสิ่งของเสื่อมโทรมเร็ว การเลือกใช้ผ้าม่าน Dim Out หรือ ผ้าม่านกันUV จะช่วยป้องกันและรักษาสภาพความใหม่ของสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆในบ้าน โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้บ้านมืดตลอดเวลาที่ปิดผ้าม่าน ส่วนผ้าม่านชนิดกันแสง 100% จะเหมาะกับใครที่นอนในเวลากลางวัน และอยากให้ห้องมืดสนิทเพื่อช่วยในการพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้น ผ้าม่านสองอย่างนี้จะตอบโจทย์ไม่เหมือนกัน

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

ถ้าต้องการให้ห้องมืดสนิม ให้เลือกใช้ผ้าม่านป้องกันแสง 100% เราสามารถเลือกระหว่างผ้าม่านชนิดทอเส้นด้ายสีดำ 100% หรือแบบเคลือบก็ได้ ความแตกต่างอยู่ที่วัสดุของผ้าม่านเท่านั้น ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดจะได้ 100% ทั้งคู่ สำหรับลูกค้าที่ซื้อผ้าม่านกันแสงแบบเคลือบ ต้องใส่ใจในเรื่องของการดูแลและรักษาผ้าม่านเป็นอย่างดี เพราะตัวเคลือบที่อยู่ข้างหลังผ้าม่านอาจหลุดหรือชำรุดได้ โดยเฉพาะถ้าทำความสะอาดรุนแรง บางที ตัวเคลือบอาจเก่าและหลุดเองก็เป็นได้ ที่ร้านผ้าม่าน ATM Decor จึงเลือกไม่จำหน่ายผ้าม่านกันแสง 100% แบบระบบเคลือบ เราขายผ้าม่านกันแสง 100% แบบใช้ระบบ High Density Black Yarn เท่านั้น

ผ้าม่าน Dim Out มีสามารถป้องกันแสงได้ 80 – 100% ใช้ระบบสอดเส้นด้ายสีดำ High Density Black Yarn ซึ่งเป็นตัวกรองรังสี UV รักษาสภายความใหม่ของเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของเครื่องประดับในบ้าน 

การเลือกใช้ผ้าม่าน Dim-Out ให้ถูกวัตถุประสงค์
ในกรณีเลือกติดผ้าม่าน Dim-Out ในบ้าน ถ้าเราอยากได้ผ้าม่านที่ป้องกันรังสีUVแต่ไม่จำเป็นต้องป้องการแสงแดดให้มืดมากนัก เราสามารถเลือกใช้เป็นผ้าม่าน Dim Out สีอ่อนได้ ผ้าม่าน Dim Out สีอ่อนจะทำให้ห้องดูสว่างตา มีความสดใส หน้าตาบ้านจะดูปลอดโปร่ง ไม่มืดมน ผ้าม่าน Dim-Out สีอ่อนที่นิยมใช้ติดในบ้านจะเป็นผ้าม่านสีเขียวอ่อน ผ้าม่านสีฟ้าอ่อน ผ้าม่านสีครีม ผ้าม่านสีเทาอ่อน ผ้าม่านสีทองอ่อน ผ้าม่านสีชมพูอ่อน ผ้าม่านสีพิ้งโกลด์ เป็นต้น แต่ถ้าอยากให้ผ้าม่านป้องกันแสงแดดมากที่สุด เพื่อยกระดับการพักผ่อนเวลากลางวัน ให้เลือกผ้าม่านสีเข้มไว้ เพราะสำหรับผ้าเนื้อเดียวกันและความหนาเท่ากัน สีของเส้นด้ายผ้าม่านจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดอย่างมาก ผ้าม่านสีเข้มจะช่วยป้องกันแสงแดดได้ดีกว่า ให้บ้านมีบรรยากาศร่มเย็น เหมาะกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ผ้าม่าน Dim-Out สีเข้มที่นิยมใช้ติดในบ้านจะเป็นผ้าม่านสีน้ำตาล ผ้าม่านสีเทาเข้ม ผ้าม่านสีม่วง และ ผ้าม่านสีน้ำเงิน

ผ้าม่าน Dim Out 100% ป้องกันแสง 100% ไม่ว่าจะเป็นสีอ่อนหรือสีเข้ม: ถ้าวัตถุประสงค์ของเราคือต้องการใช้ผ้าม่านที่ป้องกันแสงแดด 100% เวลาซื้อผ้าม่าน ให้ระบุว่าต้องการผ้าม่าน Dim Out แบบป้องกันแสง 100% หรือจะเลือกซื้อผ้าม่านแบบมีเคลือบก็ได้ โดยทั่วไป ถ้าเลือกใช้ผ้าม่าน Dim Out สีเข้ม ก็จะสามารถป้องกันแสงแดดได้ถึง 90-95% แล้ว แต่ถ้าเลือกใช้ผ้าม่าน Dim Out 100% ไม่ว่าจะใช้ผ้าม่านสีอ่อนหรือสีเข้ม ก็จะป้องกันแสงแดดได้ 100% เท่ากัน 

ความหลากหลายของผ้าม่าน Dim-Out
ผ้าม่าน Dim-Out หรือผ้าม่านกันUVจะมีหลายชนิดหลายเนื้อ ผ้าม่านบางชนิดจะมีเนื้อเงา พื้นผิวมัน สะท้อนแสงอย่างมาก บางชนิดจะมีเนื้อสาก ไม่สะท้อนแสง ออกแนวคลาสสิก ผ้าม่านกันUV แบบสอดเส้นด้ายสีดำในเนื้อผ้าจะพลิ้วมาก เพราะฉะนั้นเราสามารถใช้ผ้าชนิดนี้ตัดเย็บผ้าม่านในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าม่านจับจีบ ผ้าม่านตอกตาไก่ ผ้าม่านทำลอน ผ้าม่านเย็บหลุยส์ ผ้าม่านแบบพับ ผ้าม่านเย็บหูกระเช้า เป็นต้น ผ้าม่านแบบจีบและแบบตาไก่จะเป็นรูปแบบผ้าม่านที่ฮิตมากในประเทศไทย อาจเป็นเพราะมีความคลาสสิกในตัว ดูแล้วไม่เบื่อ มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ ผ้าม่าน Dim-Out จะมีทั้งแบบมีเทกเจอร์ ทำให้ผ้าม่านดูมีมิติ และจะมีผ้าม่านแบบลายกราฟฟิก ผ้าม่านลายดอกไม้ แนววินเทจ ผ้าม่านลายริ้ว ผ้าม่านลายพื้น ผ้าม่านแต่ละดีไซน์จะมีความสวยงาม อยู่การเลือกให้เข้าคอนเซ็ปต์ Interior Design ของบ้าน

***ผ้าม่าน Dim-Out สามารถจับจีบได้ แต่ไม่ควรรีดจีบคม เพราะเส้นด้ายสีดำจะปรากฎในเนื้อผ้า ทำให้ผ้าม่านดูไม่สวยงาม ถ้าเราอยากได้ผ้าม่าน แบบเนื้อ Dim-Outที่เย็บจีบแล้วดูสวยงาม ควรปล่อยให้ลอนผ้าม่านเป็นนูนๆแทนที่จะรีดจีบให้ดูคมแหล่ม หน้าตาลอนจะดูเหมือนผ้าม่านตาไก่ ซึ่งเป็นรูปแบบผ้าม่านที่ไม่มีความคมแหล่ม แต่มีความพลิ้วไหว

เพื่อให้ผ้าม่านมีความสวยงามแบบลงตัว เราควรใช้ผ้าในปริมาณเท่ากันในการตัดเย็บผ้าม่านจีบและผ้าม่านตาไก่ ผ้าม่านจีบจะดูภูมิฐาน มีความคลาสสิก เหมาะใช้กับบ้านทุกประเภท ผ้าม่านตาไก่จะออกแนวโมเดิร์น แต่ละรูปแบบจะมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่นิยมใช้กันอย่างมากทั่วโลก

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

ผ้าม่านที่ป้องกันแสงแดดถึง 100% เรียกว่าอะไรกันแน่?
สรุปง่ายๆ ผ้าม่านกันUVที่สอดเส้นด้ายสีดำในเนื้อผ้าคือผ้าม่าน Dim-Out หลายคนมักจะเรียกผ้าม่านชนิดนี้ว่าผ้าม่าน Blackout เพราะใช้เส้นด้ายสีดำ “Black Yarn” ในการถักทอ เส้นด้ายสีดำนี้เป็นตัวกรองรังสีUVและแสงแดด บางคนจะเรียกผ้าม่านชนิดนี้ว่าผ้าม่าน Dim-Out แต่บางคนก็เรียกว่าผ้าม่าน Blackout ได้เพราะจะมีรุ่นที่ป้องกันแสงแดดได้ 100% เช่นกัน ตามทางการ ผ้าม่านกันแสงถึง 100% จะเรียกว่า “ผ้าม่าน Block-Out” หรือ “ผ้าม่าน Blackout 100%” ถ้าได้ยินคำว่า “ผ้าม่าน Blackout” อย่างเดียว ไม่ได้แปลว่ากันแสง 100% เสมอไป

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

สรุปแบบง่ายที่สุด TLDR (Too long didn’t read= ยาวเกินไปไม่ได้อ่าน)

ผ้าม่าน Dim-Out = ผ้าม่านสอดเส้นด้ายสีดำ ป้องกันแสงแดด 80 – 100%

ผ้าม่าน Black-Out = คำนี้จะนิยมใช้กับผ้าม่านกันUVทุกชนิด บางคนเลือกที่จะใช้คำนี้เฉพาะกับผ้าม่านที่ป้องกันแสงแดด 100% เท่านั้น แต่ในคำศัพท์ทางการ ผ้าม่านที่ป้องกันแสงแดดถึง 100% คือ ผ้าม่าน Block-Out หรือ “ผ้าม่าน Blackout 100%”

Photo Credit: บริษัท แฟบริค พลัส และ Pinterest

ร้านผ้าม่าน แฟบริค พลัส (ATM Decor) มีจำหน่ายผ้าม่าน Dim Out หรือ ผ้าม่านกันยูวี ที่เป็นชนิดผ้าที่ใช้เส้นด้ายสีดำ High Density Black Yarn เรามีจำหน่ายผ้าม่านกันแสงแบบ 80 – 100% มีหลากหลายชนิดหลากหลายดีไซน์ ผ้าม่านกันยูวีจะมีทั้งแบบสีพื้น แบบลายในตัวแนวโมเดิร์น แบบทอลายดอกไม้แนววินเทจ เป็นต้น นอกจากมีดีไซน์หลากหลายแล้ว ผ้าม่านกันยูวีก็จะมีหลายเนื้อเช่นกัน มีทั้งแบบเนื้อนุ่มต่อสัมผัสและแบบเนื้อกระด้าง แม้กระทั้งพื้นผิวผ้าก็จะมีหลายชนิด มีแบบผิวลื่น แบบผิวสาก แบบพื้นผิวมันวาว เงาสะท้อนแสง และแบบผิวด้าน ไม่สะท้อนแสง เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านแบบธรรมดาหรือผ้าม่านกันยูวี ราคาผ้าจะอยู่ที่ความหนาและน้ำหนักผ้า ผ้าที่มีเนื้อหนาจะสามารถป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าผ้าม่านเนื้อบาง ผ้าม่าน Dim-Out ที่เราจำหน่ายจะมีหน้ากว้าง 2.80 เมตร เพื่อให้สามารถเย็บผ้าม่านแบบไร้รอยต่อ เย็บง่ายและสะดวก ลวดลายดีไซน์ผ้าจะต่อเนื่อง ยกระดับในเรื่องของความสวยงาม

รูปภาพผ้าม่าน Update ปี 2019

ทำไมลูกค้าถึงเลือกผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์?

• เราขายผ้าม่านให้ลูกค้าเราในราคาประหยัดได้เพราะเราเป็นผู้นำเข้าเอง ไม่ผ่านคนกลาง
• เรามีผ้าทำม่านหลายชนิดและมีจำนวนมหาศาล ลูกค้าโรงแรม รีสอร์ท หรือโครงการต่างๆมักจะใช้ผ้าม่านสีเดียวกันลายเดียวกันในจำนวนหลายร้อยเมตร เราสามารถมีสต็อกให้ลูกค้าได้เพราะเราเป็นทั้งร้านผ้าม่านขายส่งและปลีก
• เราสามารถให้คำแนะนำในการออกแบบผ้าม่านให้เข้าที่สุดกับสไตล์ของคุณ ให้บ้านคุณสวยงามและดูสดชื่นยิ่งขึ้น
• ทีมช่างตัดเย็บผ้าม่านเราเป็นมืออาชีพ ฝีมือประณีต ตัดเย็บผ้าม่านตามดีไซน์ผ้าและตามลายผ้า เราเน้นการจัดลวดลายของผ้าให้เหมาะสมและเข้าที่สุดกับความสูงและจำนวนลอนของผ้าม่านทำให้ผ้าม่านตัดเย็บออกมาแล้วดูสวยนุ่มนวล ให้ม่านดูสวยไฮคลาสอย่างภูมิฐาน
• ทีมช่างติดตั้งม่านเป็นผู้โชกโชนในการติดตั้งผ้าม่านและทำงานอย่างละเอียด สะอาด บริการไว เราดูแลงานลูกค้าให้จนจบ
• เราคือผู้เขี่ยวชาญในเรื่องของผ้าม่าน ชำนาญงานผ้าม่านโดยเฉพาะ เน้นงานมีคุณภาพ มีบริการงานผ้าม่านครบวงจร ยินดีให้คุณคำปรึกษาเสมอ จากเนื้อผ้าที่คุณต้องการไปถึงการออกแบบผ้าม่านให้เข้ากับบ้านและสไตล์ของคุณ

ผ้าม่านเอทีเอ็ม เดคอร์ ดีอย่างไรบ้าง?

• ผ้าทำม่านของเราใช้เทคโนโลยีการทอลายลึกเข้าไปในเนื้อผ้า (Texture)
• ผ้ามีลวดลายสวยหรูในเนื้อผ้า ถักทอด้วยความประณีต ทำให้เนื้อผ้ามีลายเรียบเนียน นุ่มนวล
• สีของผ้าดูสวยสด ลายของผ้าชัดและหรู
• ผ้าของเราสามารถกันความร้อนแสงแดดได้ดี ทำให้คุณได้ประหยัดแรงงานของเครื่องปรับอากาศ
• เนื้อผ้ามีผิวเรียบสม่ำเสมอตลอดเส้น มีความคงทนและแข็งแรง รักษารูปทรงดี ทนทานต่อความร้อน
• ทนแสงแดดได้โดยที่ไม่ทำให้ผ้ายืด ยับ หรือหด
• สีของเส้นใยไม่จางลงง่ายๆทำให้การดูแลรักษาผ้าม่านของเราเป็นสิ่งที่ง่าย

ผ้าม่านที่มีเคลือบกันรังสี Ultraviolet (UV)ของเรา

• เป็นผ้าทำม่านที่มีเนื้อหนา มีน้ำหนัก พริ้ว ลวดลายงดงาม สีสวยสด และมีอายุการใช้งานที่นาน
• ทนทานต่อแสงแดดและความร้อนได้ดีพิเศษกว่าผ้าม่านปกติ
• เราจำหน่ายผ้าม่านกันรังสี UVหลายชนิด มีแบบเนื้อนุ่ม เนื้อมันวาว เนื้อแบบหนาพิเศษ เป็นต้น
• ผ้าม่านกันยูวีของเรามีสีและลวดลายที่หลากหลาย มีแบบพื้นเรียบไปถึงแบบมีลวดลายอลังการหรูหรา
• ผ้าม่าน blackoutของเราเป็นผ้าที่มีความสวยงามทั้งสองด้าน สวยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (Double Face Beauty) อยากใช้ด้านใดก็ได้เป็นด้านหลักหันเข้ามาในห้อง
• ใช้เทคโนโลยีการทอด้วยเส้นด้ายสีดำทอแทรกระหว่างชั้นผ้า ผ้าชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
• เรามีผ้ากันUVแบบชนิดที่ไม่จับฝุ่นละออง ทำให้การดูแลรักษาทำความสะอาดบ้านและห้องของคุณง่ายยิ่งขึ้น

เรายินดีต้อนรับทุกท่านที่มาชมผ้าม่านที่ร้านเรา 

เราจำหน่ายทั้งผ้าทำม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตรเช่นเดียวกันกับผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร มีผ้าทำม่านสวยๆให้เลือกหลายชนิดอย่างเช่น ผ้าทำม่านแบบลายเรียบหรู ผ้าทำม่านลายดอกไม้ธรรมชาติ ผ้าทำม่านลายวินเทจหวานๆ ผ้าทำม่านลายหลุยส์ ผ้าทำม่านลายปัก ผ้าทำม่านลายฉลุ ผ้าทำม่านกันยูีวี ผ้าเนื้อซาติน แจ็คการ์ด ผ้าเนื้อผ้าฝ้าย ผ้าโปร่ง ผ้ากันแสง เป็นต้น และยังมีผ้าชนิดอื่นๆอีกมากมาย เช่น ผ้าบุโซฟา ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ ผ้าตัดเย็บคลุมเตียง ฯลฯ มีให้เลือกหลายสไตล์ เรามีบริการตัดเย็บและติดตั้งผ้าม่านให้ครบวงจร

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 223 4828 บริษัทผ้าม่าน แฟบริค พลัส ถนนพาหุรัด

เติมเต็มความสดชื่นเย็นสบายให้บ้าน เลือกผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์

บทความผ้าม่าน
ตัดเย็บผ้าม่านแบบ DIY มีข้อดีอะไรบ้าง?
การซื้อผ้าม่านมาตกแต่งบ้านควรทำตอนไหน
จ้างร้านผ้าม่านหรือซื้อผ้ามาทำผ้าม่านเองดี?
ร้านผ้าม่านในตลาดพาหุรัดมีแบบไหนบ้าง?
ผ้าม่านกันแสงแดดแตกต่างจากผ้าม่านปกติอย่างไร?
การเพิ่มมิติของห้องของคุณดูสวยงามด้วยผ้าม่าน
ผ้าม่านที่ดีช่วยทำให้เราได้มีความสุขเวลาอยู่บ้าน
ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร ต้องคำนวณอย่างไร
ผ้าลายวินเทจสำหรับอินทีเรียโรแมนติกธีมธรรมชาติ
รางผ้าม่านควรเข้าคอนเซ็ปต์กับรูปแบบผ้าม่าน
เคล็ดลับในการดูแลรักษาผ้าม่านให้ใช้ได้ในระยะยาว
สีผ้าม่านควรสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วิธีติดตั้งผ้าม่านให้บ้านดูปลอดโปร่งและกว้างใหญ่
เคล็ดลับการติดผ้าม่านให้เข้ารูปและดูสวย
ผ้าม่านคอกระเช้าเป็นสไตล์เก๋และน่ารัก
ผ้าม่านพับกับบ้านที่แต่งแนวเรียบหรู
ตัดเย็บผ้าม่านแบบทำเอง (ผ้าม่าน DIY) สำหรับผู้ที่รักความสร้างสรรค์
การสั่งซื้อผ้าม่านมาแต่งบ้านควรทำในลำดับไหนของการแต่งบ้าน?
วิธีการคิดคำนวณผ้าม่านในแต่ละหน่วย หลากับเมตร
ผ้าม่านโปร่งสี Off-White เคล็ดลับที่เพิ่มความอ่อนโยนให้กับหน้าตาบ้าน
เลือกโทนสีผ้าม่านให้ตอบสนองความต้องการของเรา ต้องทำอย่างไร?
การเสริมชั้นของผ้าม่าน เคล็ดลับในการเพิ่มมิติพื้นที่ห้อง
วิธีคำนวณผ้าม่านระหว่างเมตรและหลา
ผ้าโปร่ง ผ้าม่านที่เพิ่มความนุ่มนวลให้กับหน้าตาบ้าน
สีสันผ้าม่าน มีอิทธิพลต่อหน้าตาบ้านและสภาพจิตใจของผู้อยู่อาศัย
เย็บผ้าม่านDIYสำหรับผู้ที่รักความสร้างสรรค์ในการตกแต่ง
ผ้าม่านจีบเหมาะกับบ้านที่ตกแต่งสไตล์คลาสสิก
สีผ้าม่านควรสอดคล้องกับอินทีเรียเพื่อความสวยมีเสน่ห์ลงตัว
ซื้อผ้าม่านแบบไหนดีให้ห้องดูสวย?