ทำไมผ้าม่านต้องมีลอน? ผ้าม่านที่มีลอนน้อยจะดูสวยงามไหม ใช้สูตรอะไรในการคำนวณ?
ทำไมต้องเย็บผ้าม่านแบบมีลอน? การเลือกเย็บผ้าม่านแบบมีลอน คือ เพื่อให้ผ้าม่านดูสวยหรู มีความพลิ้วไหว และมีรูปทรงที่นุ่มนวลอ่อนช้อย การติดผ้าม่านที่มีลอนสวยๆ จะทำให้บ้านดูภูมิฐาน มีสง่าราศี และเป็นการแสดงฐานตัวตนอย่างหนึ่งว่ามีสไตล์หรือมีรสนิยมในการตกแต่งบ้านที่ดี มีเสน่ห์ที่สะท้อนถึงความสง่างามและหรูหราทรงคุณค่า”Luxury Lifestyle” และแสดงถึงความสำเร็จของผู้ที่อยู่อาศัย
การจัดวางลวดลายผ้าให้สอดคล้องกับลอนผ้าม่านจะทำให้ผ้าม่านดูสวยงาม ผ้าม่านที่มีลอนไม่ใช่เพื่อจัดลวดลายอย่างเดียว แม้ผ้าม่านสีพื้นก็ดูสวยเวลาเย็บเป็นลอน เพราะทำให้ผ้าม่านดูพลิ้ว “Graceful” มีความนิ่มนวล
รูปแบบผ้าม่านที่เย็บแบบมีลอน: ลอนผ้าม่านจะคำนวณตามความกว้าง และไม่เกี่ยวกับส่วนสูงของผ้าม่าน โดยทั่วไป รูปแบบผ้าม่านที่มีลอนจะมี ผ้าม่านตาไก่ ผ้าม่านคอกระเช้า ผ้าม่านจีบ และ ผ้าม่านหลุยส์ ความแตกต่างหลักๆ จะอยู่ที่หัวผ้าม่านเท่านั้น ส่วนรูปทรงของผ้าม่านจะไม่ต่างกันมากนัก ผ้าม่านพับและผ้าม่านสอดรางจะไม่มีลอน ผ้าม่านพับจะมีลักษณะแบนเพื่อให้การดึงขึ้นง่ายและสะดวก ส่วนผ้าม่านสอดรางจะไม่มีลอนเพราะการแขวนผ้าม่านในลักษณะนี้จะทำให้ไม่สามารถทำลอนได้ ในประเทศไทย ผ้าม่านยอดนิยมที่เหมาะสำหรับการเย็บลอนที่สุดคือผ้าม่านตาไก่ เพราะเป็นรูปแบบผ้าม่านที่ดูโมเดิร์น ภูมิฐาน และเข้ากับ Interior Design สมัยใหม่
ผ้าม่านจะมีหลากหลายรูปแบบที่เย็บแบบมีลอน เพื่อให้ผ้าม่านดูสวย มีเสน่ห์ลงตัว
ลอนผ้าม่านที่ดูสวย ควรเผื่อเท่าไหร่? การคำนวณลอนผ้าม่านตามมาตรฐานจะอยู่ที่สองเท่าถึงสามเท่า ถ้าน้อยกว่าสองเท่า จะทำให้ผ้าม่านไม่มีลอนหรือมีลอนน้อย ถ้ามากกว่าสามเท่า จะทำให้ผ้าม่านมีลอนที่ติดกันมากเกินไปและทำให้ผ้าม่านดูเกะกะ รกหูรกตา ผ้าม่านที่ดูสวยงามและลงตัวที่สุดจะมีลอน 2.5 เท่า สำหรับการคำนวณผ้าที่ต้องใช้ ให้นำความกว้างของหน้าต่างมาคูณกับตัวเลข 2.5 การวัดความกว้างของหน้าต่างจะต้องเผื่อข้างซ้ายและข้างขวาทุกครั้ง ตามมาตรฐานในการวัดหน้าต่าง ให้เผื่อข้างละ 10 ซม. แต่ถ้าหน้าต่างอยู่หัวมุมห้อง ให้เผื่อถึงสุดขอบผนัง เราจะต้องเผื่อความกว้างของผ้าม่านเพื่อไม่ให้แสงแดดผ่านทางช่องระหว่างหน้าต่างและด้านข้างของผ้าม่านได้ ถ้าต้องการให้ห้องมืดเวลาปิดผ้าม่าน การเผื่อด้านข้างเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
การเลือกตัดเย็บผ้าม่านแบบมีลอน คือ เพื่อให้ผ้าม่านดูสวยหรู มีความพลิ้วไหว และมีรูปทรงที่นุ่มนวลอ่อนช้อย
ผ้าม่านที่มีลอนน้อยๆจะดูสวยไหม? เราอาจเลือกใช้ผ้าม่านที่มีลอนน้อยๆ หรือแบนๆ เพื่อให้ประหยัดผ้าและค่าใช้จ่ายในการตัดเย็บผ้าม่าน ในการเลือกเย็บผ้าม่านแบบลอนน้อย เราเน้นที่วัตถุประสงค์และการใช้งานเป็นส่วนใหญ่ ผ้าม่านที่มีลักษณะแบนหรือลอนน้อยๆ ก็สามารถให้ความเป็นส่วนตัวเวลาอยู่ในห้องเท่ากับผ้าม่านที่มีลอนพลิ้วๆ สวยๆ นอกเหนือจากนี้ บางคนอาจชอบผ้าม่านแบนๆก็ได้ อยู่ที่รสนิยมของผู้อยู่อาศัย ถ้าพูดถึงเรื่องของประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดและความร้อน ผ้าม่านแบนๆ จะป้องกันแสงแดดและความร้อนได้น้อยกว่าผ้าม่านที่มีลอน โดยที่มีพื้นผิวหรือ “Surface Area” มากกว่า ลอนผ้าม่านจะช่วยรับแสงแดดและความร้อน และทำให้ผ้าม่านสามารถป้องกันแสงแดด ความร้อน และรังสี UV ได้มากขึ้น
ผ้าม่านแบบลอนน้อยๆ อย่างเช่นการใช้สูตรคูณ 1.5 สำหรับลอนผ้าม่าน อาจทำให้ผ้าม่านดูไม่พลิ้วเท่าที่เป็นได้ แต่อาจจำเป็นถ้าเราต้องการประหยัดงบประมาณในการใช้จ่าย การเย็บผ้าม่านแบบแบนๆหรือลอนน้อยๆจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเพียง “ฟังค์ชั่น” ของผ้าม่าน ซึ่งก็คือ เพื่อป้องกันแสงแดดและรักษาความเป็นส่วนตัวเวลาอยู่ในห้อง
เลือกสูตรคำนวณลอนที่สามารถจัดลวดลายได้: การเลือกใช้สูตรคูณ 2.5 เท่า เราจะสามารถจัดลวดลายผ้าตามลอนผ้าม่านได้ และจะทำให้ผ้าม่านมีความสวยงามอย่างลงตัวที่สุด เพราะลวดลายผ้าจะสอดคล้องกับทุกลอน ลอนผ้าม่านจะแบ่งเป็นท้องลอนและสันลอน ผ้าม่านบางดีไซน์จะมีลายใหญ่และกว้าง ทำให้ต้องตัดเย็บแบบมีลอนสลับกันทุกๆสองลอน แต่สำหรับผ้าม่านลายทั่วไป ช่างเย็บผ้าม่านมืออาชีพจะสามารถจัดให้ลวดลายลงตัวกับลอนผ้าม่านได้ทุกลอน
การตัดผ้าม่านให้ดูดีควรจัดวางลายผ้าให้ลงล็อคกับลอนผ้าม่าน เพื่อให้ผ้าม่านเย็บออกมาดูสวยงาม ดีไซน์มีความสมดุล ดูมีสง่าราศี
การคำนวณลอนผ้าม่าน: ในการคำนวณผ้าสำหรับทำผ้าม่าน เราสามารถใช้สูตรคูณเท่าไหร่ก็ได้ระหว่าง 2 – 3 เพื่อความสวยงาม ร้านผ้าม่าน ATM Decor เลือกใช้สูตรคูณ 2.5 การใช้สูตรนี้จะทำให้ผ้าม่านมีความพลิ้วไหวและดูสวยงามลงตัวที่สุด ยกตัวอย่าง ถ้าหน้าต่างมีความกว้าง 1 เมตร (ให้สมมุติว่าหน้าต่างอยู่กลางห้องและไม่ติดขอบผนังหรือมีเฟอร์นิเจอร์บังใดๆ) เราจะต้องเผื่อความกว้าง 20 ซม. ก่อน เพราะต้องเผื่อข้างซ้าย 10 ซม. และข้างขวา 10 ซม. เพราะฉะนั้นความกว้างที่เราจะใช้ในการคำนวณคือ 1.20 เมตร นำความกว้าง 1.20 เมตร ไปคูณกับ 2.5 เท่า เพื่อได้ความยาวของผ้าที่จะต้องตัด (ถ้าใช้ผ้าหน้าแคบอาจต้องนำผ้ามาต่อกันหลายๆชิ้น)
ความยาวของผ้าที่จะต้องตัด: 1.20 เมตร x 2.5 = 3 เมตร
ผ้า 3 เมตร หลังจากนำมาเย็บเป็นลอน 2.5 เท่า จะลดลงมาเหลือ 1.20 เมตร ตามขนาดผ้าม่านที่ต้องการแบบเย็บสำเร็จ
ผ้าม่านหลุยส์เป็นสไตล์ผ้าม่านที่ต้องใช้ผ้าจำนวนมาก เพราะนอกจากเย็บลอนแล้ว ยังต้องใช้ผ้าเย็บลูกหลุยส์อีกด้วย
ความสูงของผ้าม่านไม่เกี่ยวกับการคำนวณลอนผ้าม่าน: จำนวน 3 เมตร คือความยาวของผ้าที่จะต้องใช้สำหรับเย็บผ้าม่านที่มีความกว้าง 1.20 เมตร อย่างที่เรียนข้างต้น การคำนวณลอนผ้าม่านจะไม่เกี่ยวกับส่วนสูง เพราะฉะนั้น ไม่ว่าผ้าม่านจะมีความสูงเท่าไหร่ ถ้าต้องการเย็บผ้าม่านที่มีความกว้าง 1.2 เมตร เราจะต้องตัดผ้าให้มีความยาว 3 เมตร ทุกครั้ง เพื่อให้ได้ลอนขนาด 2.5 เท่า ซึ่งเป็นจำนวนที่ให้ผ้าม่านเย็บออกมาดูดี มีความสวยงาม และพลิ้วที่สุด
การคำนวณผ้าสำหรับทำผ้าม่านจะมีสามขั้นตอน ขั้นตอนแรก ให้คำนวณความกว้างของผ้า ขั้นตอนที่สอง ให้คำนวณจำนวนชิ้นของผ้าที่ต้องมาต่อกันให้ได้ความกว้างที่ต้องการ ขั้นตอนที่สาม ให้คำนวณความยาวของผ้าแต่ละชิ้น จำนวนชิ้นผ้าที่จะต้องต่อกันจะอยู่ที่หน้ากว้างของผ้า ผ้าหน้ากว้างพิเศษจะไม่ต้องมีการตัดต่อ เพราะสามารถใช้หน้ากว้างเป็นส่วนสูงของผ้าม่านได้ทันที
จำนวนผ้าที่จะต้องใช้ทำผ้าม่าน: ในการคำนวณผ้าที่จะต้องใช้ทำผ้าม่าน ความยาว 3 เมตร คือส่วนกว้างของผ้าม่านเท่านั้น ความสูงยังไม่ได้คำนวณ ในตัวอย่าง ถ้าหน้าต่างมีความกว้าง 1.20 เมตร และความสูง 1.50 เมตร เราจะต้องใช้ส่วนสูงในการคำนวณความยาวของผ้าแต่ละชิ้นที่จะต้องนำมาต่อกัน ถ้าเลือกใช้ผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร สำหรับทำผ้าม่าน เราจะไม่ต้องต่อผ้า การคำนวณจะง่าย เพราะสามารถใช้หน้ากว้างของผ้าเป็นส่วนสูงของผ้าม่านได้ทันที ซื้อผ้าเพียง 3 เมตร ก็สามารถนำมาเย็บผ้าม่านแบบมีลอนได้แบบเป็นผืนเดียว ไม่ต้องตัดผ้าเป็นชิ้นๆ เพื่อนำมาต่อกัน การเย็บจะง่ายและสะดวก เพราะเหตุผลนี้ ผ้าม่านหน้ากว้างพิเศษจึงเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในตลาด ผ้าที่ใช้ทำผ้าม่านทั่วไปจะใช้แบบหน้ากว้าง 1.50 เมตร เพราะฉะนั้นในตัวอย่าง เราจะใช้ผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ในการคำนวณ
ผ้าม่านจีบเป็นอีกสไตล์ผ้าม่านที่ควรมีลอน เพื่อให้ผ้าม่านดูภูมิฐาน มีเสน่ห์ที่ดู Classic
ขั้นตอนการคำนวณผ้าสำหรับทำผ้าม่าน
1) คำนวณความกว้างของผ้า: อย่างที่เราได้คำนวณกัน ความกว้างของผ้าที่เผื่อลอน 2.5 คือ 3 เมตร สำหรับตัดเย็บผ้าม่านที่มีความกว้างสำเร็จ 1.20 เมตร (ผ้า 3 เมตร เวลาเย็บลอน 2.5 เท่า จะเหลือ 1.2 เมตร เท่านั้น)
2) คำนวณจำนวนชิ้นผ้า: ถ้าเลือกใช้ผ้าทำม่านที่มีหน้ากว้าง 1.50 เมตร เราจะต้องใช้ผ้าสองสิ้น เพื่อนำมาต่อกันให้ได้ 3 เมตร
3) จำนวนผ้าที่จะต้องซื้อ: พอคำนวณจำนวนชิ้นของผ้าที่ต้องใช้เสร็จแล้ว (ในกรณีนี้คือ 2 ชิ้น) เราจะต้องคำนวณความยาวของผ้าแต่ละชิ้น ความยาวของผ้าแต่ละชิ้นก็คือความสูงของผ้าม่านที่ต้องการนั่นเอง ความสูงของผ้าม่านต้องเป็นตัวเลขที่เผื่อแล้ว ถ้าหน้าต่างมีความสูง 1.50 เมตร ผ้าม่านควรทิ้งลงมาใต้หน้าต่าง 20 – 30 ซม. และควรเผื่อสำหรับติดรางผ้าม่านเหนือหน้าต่างอีก 10 ซม. เพราะฉะนั้นจะต้องเผื่อความสูง 40 ซม. นอกจากนี้ เราจะต้องเผื่อเย็บริมด้านบนและด้านล่างอีกด้านละ 15 ซม. เพราะฉะนั้นจะต้องบวกเพิ่มอีก 30 ซม. เท่ากับว่าผ้าแต่ละชิ้นจะต้องมีความยาว 2.20 เมตร (1.50 เมตร + 0.40 เมตร + 0.30 เมตร = 2.20 เมตร) เราต้องใช้ผ้าสองชิ้น เท่ากับว่าผ้าที่จะต้องซื้อคือ 2.20 เมตร x 2 ชิ้น = 4.40 เมตร ถ้าจะเย็บสายรัดม่านด้วย ให้เผื่ออีก 30 ซม. เท่ากับว่าต้องซื้อผ้าทั้งหมด 4.70 เมตร
จำนวนผ้าที่ใช้สำหรับตัดเย็บผ้าม่าน: จากการคำนวณข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า การคำนวณผ้าม่านแบบให้มีลอนสวยๆ งามๆ จะต้องใช้ผ้าถึง 4.40 เมตร ในสูตรนี้ เราใช้ผ้าทำผ้าม่านที่มีหน้ากว้าง 1.5 เมตร ถ้าเลือกใช้ผ้าที่มีหน้ากว้างพิเศษ อย่างเช่น ผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร เราจะใช้ผ้าเพียง 3 เมตร เท่านั้น และจะยังมีพอสำหรับทำสายรัดม่านอีกด้วย
ผ้าม่านตาไก่เป็นรูปแบบผ้าม่านยอดนิยมในประเทศไทย ผ้าม่านสไตล์นี้จะดูสวยงามเป็นพิเศษเวลาเย็บแบบมีลอน
ลอนผ้าม่านสำหรับม่านตาไก่: ในการตกแต่งบ้าน Interior Design สไตล์โมเดิร์น ผ้าม่านตาไก่จะเป็นรูปแบบผ้าม่านที่นิยมใช้มากที่สุด และการจัดลายผ้าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้ผ้าม่านตาไก่เย็บออกมาแล้วดูสวยงาม มีความสมดุล ดีไซน์บางลายจะมีระเบียบ มีแบบแผน อย่างเช่น ผ้าม่านลายหลุยส์ ผ้าม่านลายดอกไม้ ผ้าม่านลายต้นไม้ ผ้าม่านลายริ้ว สำหรับผ้าม่านที่มีลวดลายเหล่านี้ การจัดวางดีไซน์ให้ลงล็อกและสอดคล้องกับลอนจะสร้างความสมดุลและทำให้ผ้าม่านดูดี การตัดเย็บผ้าม่านตาไก่ด้วยผ้าลายหลุยส์จะเน้นการจัดลายเป็นพิเศษ เพราะลายหลุยส์จะต้องลงล็อกกับคลื่นลอนทุกครั้ง ให้ดีไซน์ผ้าม่านสอดคล้องกันและดูมีระเบียบ
การเลือกใช้ผ้าตัดม่านแบบหน้ากว้างพิเศษ (หน้ากว้าง 2.4 เมตรขึ้นไป) จะทำให้สามารถเย็บผ้าม่านแบบไร้รอยต่อ
Photo Credit: บริษัท แฟบริค พลัส และ Pinterest
ร้านผ้าม่าน ATM Decor บริษัท แฟบริค พลัส มีจำหน่ายผ้าสำหรับตัดเย็บผ้าม่านในทุกรูปแบบ ทุกสไตล์ นอกจากผ้าม่านแล้ว ยังมีจำหน่ายผ้าตกแต่งบ้านอื่นๆอีกมากมาย รวม ผ้าหุ้มเบาะ ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์หวาย ผ้าปูโต๊ะ ผ้าปูที่นอน ผ้าคลุมเตียง เป็นต้น ผ้าม่านจะมีตัวเลือกทั้งแบบผ้าม่านกันแสง UV และแบบผ้าม่านธรรมดา ผ้าเย็บผ้าม่านจะมีให้เลือกแบบหน้ากว้างพิเศษ 2.80 เมตร (110 นิ้ว) สำหรับตัดเย็บผ้าม่านแบบไร้รอยต่อ และแบบหน้ากว้าง 1.5 เมตร (60 นิ้ว) ซึ่งเป็นหน้ากว้างมาตรฐานในประเทศไทย ผ้าทุกชนิดขายในราคาส่ง หน้าร้านอยู่ใจกลางตลาดพาหุรัด แหล่งต้นทุนและตลาดผ้าประเทศไทย
ร้านผ้าม่าน ATM Decor บริษัท แฟบริค พลัส มีจำหน่ายผ้าม่านหลากหลายชนิด ขายราคาส่ง
ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับสินค้าผ้าม่านและผ้าหุ้มเบาะแต่ละชนิดได้ที่ 02 223 4828
3 thoughts on “ผ้าม่านควรมีลอนแบบไหน? ให้เย็บออกมาดูสวย มีความสมดุล”
Comments are closed.